คุณสามารถหาซื้อของได้ทุกประเภทที่ตลาดนัดสวนจตุจักร

jatujukตลาดนัดจตุจักร (Jatujak Market) เป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร มีจำนวนแผงค้าทั้งหมดมากกว่า 8,000 แผงค้า แบ่งเป็น 27 โครงการ มีสินค้า 8 ประเภท ได้แก่ ผักและผลไม้ เสื้อผ้า สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ อาหารปรุง อาหารสำเร็จรูป อาหารสด และเบ็ดเตล็ด ซึ่งตลาดแห่งนี้มีความเป็นมายาวนานกว่า 60 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลมีนโยบายให้จัดตั้งตลาดนัดขึ้นในทุกจังหวัด ปัจจุบันในกรุงเทพฯแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักสวนจตุจักร ที่นี่เป็นแหล่งตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุด มีร้านแฟชั่นทันสมัย ร้านไม้โบราณหรือแกะสลัก ร้านขายสัตว์เลี้ยงมากมาย อย่างสุนัข นก แมวและปลาหลายชนิด ทั้งหมดเหล่านี้จะพบได้ที่นี่

สุดยอดสถานที่สำหรับการค้าปลีกในกรุงเทพฯ นี่คือการจับจ่ายซื้อของที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่อยู่รอด เฉพาะผู้ที่มีสัญชาตญาณการชอปปิ้งเท่านั้นที่ทนไหว ในขณะที่ที่เหลือต้องยอมหลีกทางให้ ในท้องตลาดอันกว้างขวางเท่าเมืองแห่งนี้ที่ซึ่งคนจำนวนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันทุกสุดสัปดาห์เพื่อขายสินค้าทุกชนิด ตั้งแต่ของเก่าจากพม่าไปจนถึงสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์แท้ ตลาดนัดจตุจักรตั้งอยู่บนที่ดินของสวนสาธารณะซึ่งเป็นอภินันทนาการจากการรถไฟแด่มหาชนชาวไทย เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุครบ 4 รอบ ในปี 2519 ภายในสวนสาธารณะยังมีสวนหย่อมหลากหลายรูปแบบอีกเป็นจำนวนมาก เป็นต้นว่า สวนสมุนไพร หรือสวนดอกไม้ในวรรณคดี สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจคือหอเกียรติภูมิรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ประตู 2 หอรถไฟนี้จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์การขนส่งและนิทรรศการหลากหลายรูปแบบ นับแต่รถแท็กซี่จากลอนดอนไปจนถึงรถลาดตระเวนจากญี่ปุ่นที่ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

เสน่ห์อย่างหนึ่งของตลาดนัดจตุจักรคือการต่อรองราคาระหว่างคนขายและลูกค้า บางร้านอาจจะมีการต่อรองราคาได้บ้างไม่ได้บ้าง ดังนั้นอย่าแปลกใจว่าคุณและเพื่อนอาจจะต่อรองราคาเหมือนกัน แต่อาจจะได้ราคาต่อรองที่ต่างกัน การเดินซื้อของที่จตุจักรก็นับว่าอย่างน้อยก็สร้างความสนุกสนานและความสุขให้กับตัวเอง เพลิดไปกับสิ่งของที่พบเห็นมากหน้าหลายตา ตลาดนัดสวนจตุจักรจะเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถไฟฟ้า (BTS) มาลงสถานีหมอชิต หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) มาลงสถานีกำแพงเพชร นอกจากนี้ก็ยังมีรถแท็กซี่ รถประจำทางและรถตู้หลายสายให้บริการ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกับการค้นหาข้อมูลทางเว็บไซต์


จะเห็นได้ว่าเว็บไซต์เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงและซื้อขายสินค้าและได้โดยตรง ดังนั้น ผู้จัดหาบริการการท่องเที่ยว, ผู้จัดหาระบบเทคโนโลยี เช่น GDSs และตัวกลางทางการท่องเที่ยว เช่น บริษัทท่องเที่ยวแบบขายปลีก และ OTAs จึงสร้างการออนไลน์ในรูปแบบของเว็บไซต์ที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง และการแข่งขันการขายสินค้าและบริการแก่ลูกค้า แต่ละบริษัทท่องเที่ยวจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง และมีการใช้เทคนิคการขายที่พิเศษเพื่อชักจูงลูกค้าให้ซื้อสินค้าและบริการ เนื่องจากการแข่งขันขายสินค้าและให้บริการมีจำนวนมาก วิธีที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่มีศักยภาพในการกรองข้อมูลสินค้าและบริการเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดตามความต้องการของพวกเขาคือ การใช้เครื่องมือค้นหาข้อมูล (Search Engine) เช่น Google, Yahoo, Bing ทางอินเตอร์เน็ต

เครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการกลั่นกรองข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งเห็นได้จากปริมาณการค้นหาข้อมูลที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ต่อปี โดยผู้เยี่ยมชมจะใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ในการอ่านข้อมูล การจัดอันดับตำแหน่งของการเข้าชมเว็บไซต์ ดังนั้นบริษัทท่องเที่ยวสามารถใช้เทคนิคในการทำให้เว็บไซต์ของตนติดอันดับเว็บไซต์ที่ถูกแสดงจากการค้นหาเป็นอันดับต้นๆ ในเครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต จำนวน 2 วิธี คือ การพัฒนาเว็บไซต์ (Search Engine Optimisation – SEO) และ การซื้อพื้นที่โฆษณาในเว็บไซต์ของเครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต (Paid Search)

การทำ SEO จะเน้นการจัดการโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์ เพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ในหน้าแสดงผลการค้นหาในเว็บไซต์ที่เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตภายใต้เงื่อนไขของผู้บริโภค เครื่องมือค้นหาข้อมูลจะใช้ซอฟท์แวร์เฉพาะที่เรียกว่า แมงมุมในการขยายข้อมูลและควบคุมเว็บไซต์ โดยแยกประเภทหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเรียกค้นหาในเครื่องมือค้นหาข้อมูลตามวิธีการคำนวณข้อมูลเฉพาะ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การแข่งขันเพื่อครอบครองพื้นที่แสดงข้อมูลนั้นต้องยกให้กับบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ ที่มีพื้นที่มากที่สุด โดยจะเห็นได้จากผลแสดงการค้นหาข้อมูลที่มากที่สุดในทุกสินค้าและบริการการท่องเที่ยว การครอบครองพื้นที่ดังกล่าวนำมาซึ่งจุดเด่นที่แตกต่างกัน 2 ประการคือ 1) งบการตลาดที่มีมูลค่าสูง ซึ่งทำให้ OTAs แจ้งราคาที่สูงขึ้นแก่ผู้จัดหาสินค้าและบริการการท่องเที่ยว และ 2) ความรู้ทางเทคนิคที่เหนือกว่าทำให้บริษัทเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากระบบ SEO ได้มากกว่า  OTAs เน้นวิธีให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูลในการดึงดูดลูกค้า และยังรวมการค้นหาข้อมูลนี้เข้ากับระบบความสามารถหลักขององค์กรธุรกิจของพวกเขา ดังนั้น บริษัทเหล่านี้จึงปรากฏอยู่ชัดเจนในรายการแสดงผลการค้นหา ซึ่งทำให้การควบคุมการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการการท่องเที่ยวบนเว็บไซต์ไม่ท้าทายนัก

ผู้พัฒนาโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักชนิดหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งนำรายได้จากประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจด้านนี้ค่อนข้างมาก ส่งผลให้อัตราการแข่งขันจากคู่แข่งมีอัตราสูงตามไปด้วยแม้กระทั่งประเทศไทยเองที่มีบริษัทนำเที่ยวเกิดขึ้นมากมาย ทำให้บริษัทนำเที่ยวต่างๆ เกิดการโปรโมตจุดขายของตนเองออกมา ทำการตลาดให้น่าสนใจแล้วเกิดแรงดูดดูดจากนักท่องเที่ยว

ในขณะนี้มีการโฆษณาทางการตลาดออกมามากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดแคมเปญโฆษณา การจัดบูทประชาสัมพันธ์ตามที่ต่างๆ และเชิญชวนให้คนในประเทศท่องเที่ยวภายในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการโฆษณาทางการตลาดที่น่าสนใจ คือการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ทางหน้าเว็บไซต์ เพราะ การทำเว็บไซต์ให้เป็นที่น่าสนใจนับเป็นหน้าตาของการท่องเที่ยวที่ดี ยกตัวอย่างเช่นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวเว็บไซต์สำหรับแอพพลิเคชั่นในมือถือ ที่สามารถตอบโจทย์นักเดินทางท่องเที่ยวด้วยระบบนำทางที่ละเอียดและแม่นยำ ง่ายต่อการใช้งานเพื่อเป็นเครื่องมือให้กับนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ให้ช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการท่องเที่ยวที่น่าสนใจและหลากหลายของประเทศไทย ผ่านช่องทางการสื่อสารยอดฮิต สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจทั่วโลกโดยได้วิเคราะห์จากแนวโน้มความนิยมของโทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟนที่จะใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร และช่วยประชาสัมพันธ์บอกต่อกัน และรูปแบบของเว็บไซต์แอพพิเคชั่นยังเป็นสิ่งจำเป็นที่น่าสนใจต่อผู้ใช้บริการรุ่นใหม่ ดังนั้นทีมงานบริษัทพัฒนาโปรแกรมและเว็บไซต์เฉพาะ จึงมีบทบาทในส่วนนี้มากเนื่องจากต้องใช้ประสบการณ์และความรู้ความชำนาญในการพัฒนาอีกด้วย

นอกจากนี้ไม่เพียงแต่การทำการตลาดประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทางสื่อออนไลน์เท่านั้น ยังมีสิ่งที่เป็นจุดเด่นที่ทำให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น นั่นคือเรื่องความป็นเอกลักษณ์ และความมีมิตรไมตรีของประชาชน การมีศิลปวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงามที่ชาวต่างชาติไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของประเทศไทย โดยบริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา ได้สำรวจไว้ว่า ประเทศไทย เป็นที่ 1 ในเรื่องคุณค่าการท่องเที่ยวที่สมราคา และเป็นที่ 3 ใน ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้