นักท่องเที่ยวต้องรู้!ประเทศห้ามใช้ไม้เซลฟี่

หลายคนที่มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แน่นอนว่าการถ่ายภาพตัวเองกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน บ่อยครั้งที่เรามักต้องอาศัยการไหว้วานคนแปลกหน้าให้ช่วยถ่ายรูปให้ และภาพที่ได้มาอาจไม่ค่อยถูกใจเราสัก เท่าไหร่นัก

ด้วยเหตุนี้หลายๆคนจึงแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการอาศัยอุปกรณ์เซลฟี่ยอดนิยมอย่าง ไม้เซลฟี่ หรือ Selfie Sticks อุปกรณ์สำหรับถ่ายรูปด้วยตัวเองที่ใครๆก็ต้องมีใช้ แต่ช้าก่อนนะทุกคน! ใช่ว่าทุกประเทศในโลกใบนี้จะอ้าแขนต้อนรับเจ้าไว้วิเศษนี้เสมอไปนัก เพราะยังมีอยู่ 6 ประเทศที่ห้ามนำไม้เซลฟี่ไปใช้ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆในประเทศของเขาอย่างเด็ดขาด!

สำหรับ 6 ประเทศที่มีความเข้มงวดและถึงขึ้นห้ามไม่ให้ใช้ไม้เซลฟี่ในการถ่ายรูปตามสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แก่

1. สหรัฐอเมริกา (United States of America) ได้มีการสั่งห้ามใช้ไม้เซลฟี่ในเขตพิพิธภัณฑ์ในเครือสถาบันสมิธโซเนียน (Smithsonian Institution) อย่างเด็ดขาด และให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากอุปกรณ์ดังกล่าว รวมไปถึงการป้องกัน การเสียหายต่อของวัตถุโบราณๆภายในพิพิธภัณฑ์ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปได้ตามปกติเพียงแต่ต้องไม่มีไม้เซลฟี่เป็นตัวช่วยเท่านั้นเองค่ะ

2. อิตาลี (Italy) ประเทศท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย ที่สั่งห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวใช้ไม้เซลฟี่ในเขตโคลอสเซียม (Colosseum) 1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอิตาลี ที่มีนักท่องเที่ยวมา เยือนถึงวันละ 16,000 คน

ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าจึงสั่งห้ามไม่ให้มีการใช้ไม้เซลฟี่ในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ที่นักท่องเที่ยวจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดค่ะ

3. ฝรั่งเศส (France) อีกหนึ่งประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ที่มีการสั่งแบนไม้เซลฟี่ในเขตสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างพระราชวังแวร์ซายส์, พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และพิพิธภัณฑ์ Centre Pompidou พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในปารีส ทั้งนี้ก็เพื่อลดการ รบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่น รวมไปถึงการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อผลงานศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้นั่งเองค่ะ

4. บราซิล (Brazil) แม้ว่าจะไม่ได้ห้ามใช้ไม้เซลฟี่ในสถานที่สำคัญ หรือ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆภายในประเทศ แต่ที่บราซิลก็มีการไม่ให้นำไม้เซลฟี่ไปใช้ในสนามฟุตบอลภายในประเทศอย่างเด็ดขาด เนื่องจากไม้เซลฟี่ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้แทนอาวุธได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างแฟนบอลในสนาม ไม้เซลฟี่นี่ถือว่าเป็นอาวุธที่ร้ายแรงอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ นอกจากในสนามฟุตบอลแล้วนั้น ที่บราซิลยังห้ามไม่ให้ใช้ไม้เซลฟี่ในช่วงที่มีขบวนพาเหรด หรืองาน คาร์นิวัลอีกด้วยค่ะ

5. ออสเตรีย (Austria) ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในยุโรปกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ห้ามไม่ให้ใช้ไม้เซลฟี่ในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอย่าง หอศิลป์อัลแบร์ตีนา (Albertina Museum) พิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นเลิศของเวียนนา สถานที่แห่งนี้ก็ได้ห้ามใช้ไม้เซลฟี่ด้วยเช่นกันค่ะ ที่นี่จะเริ่มตรวจเช็คตั้งแต่ยังไม่เข้าไปภายในเขตพิพิธภัณฑ์เลยเสียด้วยซ้ำค่ะ

6. เกาหลีใต้ (South Korea) ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สั่งห้ามใช้อย่างเด็ดขาดเลยค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม้เซลฟี่มีบลูทูธ (Bluetooth)ที่สามารถปล่อยคลื่นรบกวนที่อาจทำให้เกิดปัญหาความรั่วไหลของข้อมูลที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ด้วย เหตุนี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้จึงสั่งห้ามนำเข้าไม้เซลฟี่ และหากพบว่าใครฝ่าฝืนอาจถูกจำคุก 3 ปี หรือปรับถึง 30 ล้านวอน หรือประมาณ 8 ล้านบาทไทยเลยค่ะ

ความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ

การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว

คือ การเผยแพร่ข่าวสารการท่องเที่ยวไปยังนักท่องเที่ยวเป้าหมาย เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ โดยใช้กิจการรมและสื่อต่างๆที่ไม่ใช่ทางการค้า เป็นการสื่อความหมายทางการท่องเที่ยวจากธุรกิจไปสู่นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวสนับสนุนวัตถุประสงค์การดำเนินงานของธุรกิจ และปรับแนวคิดระหว่างธุรกิจกับชุมชนให้สอดคล้องกัน จึงเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีและความศรัทธาให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนและนักท่องเที่ยวอันจะจำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด การนำเอาการโฆษณามาใช้กับการประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อการประชาสัมพันธ์ที่มิได้มุ่งขายผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยว แต่เป็นการโฆษณาธุรกิจท่องเที่ยวโดยมุ่งหวังสร้างชื่อเสียง ภาพพจน์และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ประกอบการกับประชาชนที่เกี่ยวข้อง

การจัดการขายบริการธุรกิจการท่องเที่ยวกระทำได้หลายวิธี

อีกทั้งเป็นเรื่องที่ทั้งท้องถิ่น รัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวได้ข้อมูลการท่องเที่ยวที่ถูกต้อง การโฆษณาประชาสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะสร้างเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้องให้เข้าใจตรงกัน เป็นการเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนรับรู้โดยมิได้มุ่งหวังจะจำหน่ายสินค้าหรือบริการ แต่มุ่งจะยึดครองจิตใจ ความนิยมชมชอบจากประชาชน การโฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกเดินทางไปพักผ่อนศึกษาหาความรู้ได้ทันตามความพอใจและตามสภาพฐานะที่จะอำนวยของแต่ละบุคคล

การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกข้อมูลให้แก่ผู้ที่กำลังวางแผนการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ควรเร่งพัฒนาเพื่อส่งเสริมให้กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจด้านท่องเที่ยวสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ สำหรับอุปสรรคในการดำเนินการเชิงรุกคือผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจกับการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียมากนักเพราะคิดว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านแหล่งท่องเที่ยวจึงไม่ต้องพึ่งโลกอินเตอร์เนท ขณะที่ต่างประเทศเช่น สิงคโปร์ และมาเลเซียมีการนำเทคโนโลยีสื่อเข้ามาใช้เป็นสื่อกลางและประสบความสำเร็จมาก ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงควรมีกลยุทธ์เพื่อตอบโต้ แย่งชิงและครอบครองพื้นที่การตลาดให้ได้นานที่สุด

วัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

1.เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารทางการท่องเที่ยว และให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยว
2.เพื่อเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
3.เพื่อรักษาหรือเพิ่มส่วนครองตลาดการท่องเที่ยว
4.เพื่อเพิ่มพูนการระลึกถึง จดจำ การยอมรับ และความเชื่อถือด้านการท่องเที่ยว
5.เพื่อเพิ่มพูนปริมาณนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นในอนาคต
6.เพื่อสร้างความได้เปรียบทางด้านการท่องเที่ยวให้เหนือคู่แข่ง